แปะก๊วย
แปะก๊วย ชื่อสามัญ Ginkgo biloba
แปะก๊วย ชื่อวิทยาศาสตร์ Ginkgo biloba L. จัดอยู่ในวงศ์ GINKGOACEAE
- แปะก๊วย เป็นสมุนไพรที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน มีลักษณะคล้ายใบพัด มี 2 กลีบ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่จัดว่ามีสรรพคุณค่อนข้างหลากหลายและดีมากชนิดหนึ่ง แต่จัดว่าเป็นยาอันตราย มีขายในเฉพาะร้านขายยาแผนปัจจุบันเท่านั้น (โดยเฉพาะบางประเทศ ต้องใช้ใบสั่งแพทย์เท่านั้นถึงจะซื้อมารับประทานได้ แต่สำหรับประเทศไทยไม่ห้ามถึงขนาดนั้นครับ)
- ใบแปะก๊วยในรูปของผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โดยทั่วไปแล้วสารสกัดจากใบแปะก๊วยมักมีวางจำหน่ายในรูปของแคปซูลขนาดตั้งแต่ 40-60 มิลลิกรัมต่อแคปซูล โดยเราสามารถรับประทานในขนาด 60 มิลลิกรัมได้มากถึง 3 แคปซูล หรือ 180 มิลลิกรัมต่อวันเลยทีเดียว
- ห้ามรับประทานสารสกัดจากใบแปะก๊วยร่วมกับยาแอสไพรินหรือสารป้องกันการเกิดลิ่มเลือดต่าง ๆ เด็ดขาด ย้ำนะครับว่าห้ามเด็ดขาด เพราะอาจทำให้มีเลือดออกที่ตาขาวได้ และสำหรับหญิงตั้งครรภ์หรือผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันต่ำหรือสูงกว่าปกติ ก็ไม่ควรรับประทานครับ แต่อย่างไรก็ดีคุณควรปรึกษาแพทย์ก่อนเพื่อความมั่นใจอีกทีครับ
- ส่วนการโฆษณาสรรพคุณของใบแปะก๊วยนั้นโดยส่วนมากแล้วจะเน้นโฆษณาไปในเรื่องของการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความจำ การบำรุงสมองเป็นหลัก แต่คุณรู้หรือไม่ครับว่าใบแปะก๊วยนั้นมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิดแค่ไหน ? มาดูกันครับ
ประโยชน์ของแปะก๊วย
- สารสกัดจากใบแปะก๊วยเป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระชั้นเลิศ
- ช่วยชะลอความแก่ชราและป้องกันโรคมะเร็งได้
- ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้ดีอีกด้วย ทำให้มีก๊าซออกซิเจนไปเลี้ยงสมอง หัวใจ และอวัยวะต่าง ๆ ตามร่างกาย
- ช่วยบำรุงสมอง ป้องกันโรคสมองเสื่อมได้
- ช่วยในเรื่องของการเพิ่มสมาธิและช่วยเพิ่มความจำความคิดได้ดี
- ช่วยให้ผู้ป่วยอัลไซเมอร์มีพัฒนาการรับรู้และเข้าสังคมได้ดีขึ้นด้วย
- ช่วยต้านโรคซึมเศร้าอย่างได้ผลสำหรับผู้ป่วยที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาแบบทั่วไป
- ช่วยลดอาการตะคริวหรือการเจ็บกล้ามเนื้อบริเวณต่าง ๆ
- ช่วยลดอาการวิงเวียนศีรษะ เสียงดังในหู หรือหูอื้อลงได้
- ช่วยบรรเทาอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้ดี หรือจะเรียกว่าเป็นไวอากราชั้นดีจากธรรมชาติเลยก็ว่าได้
- สารสกัดจากใบแปะก๊วย ยังช่วยป้องกันและรักษาโรคศูนย์กลางจอประสาทตาเสื่อมได้
- สามารถช่วยป้องกันโรคเบาหวานขึ้นตาได้
- สำหรับผู้ป่วยโรคหอบหืด การรับประทานใบแปะก๊วยจะช่วยป้องกันการหดตัวของกล้ามเนื้อหลอดลมได้
แหล่งอ้างอิง : หนังสือวิตามินไบเบิล (ดร.เอิร์ล มินเดลล์)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น